กระทรวงพาณิชย์จับมือสถานอกอัครราชทูตอังกฤษȨร่องใช้บล็อกชนบริหารทรัพย์สิȨางปัญญ�
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้� (สน�.) ร่วมกั� สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษจัดงานประชุมเพื่อนำเสนอร่างผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้บล็อกเชนบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญ�

Focus group: Enhancing intellectual property management by blockchain
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ร่วมกั� สถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไท� เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเพื่อนำเสน� (ร่าง) ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาสู่เชิงพาณิชย์ โดยมีป็Ȩี่ปรึกษาฯ
ฯพณฯ นายไบรอั� เดวิดสั� เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไท� กล่าวว่าอังกฤษสนับสนุนการเปิดตลาดและการค้าเสร� รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับเศรษฐกิจการค้� ซึ่งบล็อกเชนเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สถานทูตอังกฤษให้การสนับสนุนในการยกระดับเศรษฐกิจการค้าของไท� โดยเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจการค้าได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา สู่เชิงพาณิชย์ด้วย ทั้งนี� สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษยินดีที่ได้สนับสนุนงบประมาณและทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และมหาวิทยาเกษตรศาสตร์ในโครงการศึกษาครั้งนี้
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพ� ผู้อำนวยกา� กล่าวว่าบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาปฏิวัติเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทั� โดยคุณลักษณะเด่นของบล็อกเชน เช่� เพิ่มความโปร่งใสในระบ� ส่งข้อมูลไปยังหน่วยในเชนได้พร้อมกันหลายหน่วย ปลอมแปลงแก้ไขได้ยา� รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความไว้วางใ� (Trust Building) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการค้าสมัยใหม่ โดยเฉพาะการค้าออนไลน์รูปแบบต่างๆ สน�. เล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการนำบล็อกเชนมาใช้ในงานของกระทรวงพาณิชย์หลายอย่าง เช่� การจดทะเบียน (registration) การสร้างระบบตรวจสอบย้อนกลั� (traceability) การจดแจ้งความเป็นเจ้าของ (ownership) การสร้างความมั่นใจให� e-commerce เป็นต้น การใช้บล็อกเชนในงานกระทรวงจะช่วยลดปัญหาความไม่โปร่งใ� ลดกรณีพิพาทระหว่างคู่สัญญา และลดต้นทุนการประกอบธุรกิจขอ� SME และผู้ประกอบ การค้าต่าง� สน�. จึงดำเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในงานกระทรว� 3 โครงกา� ซึ่งวันนี้เป็นการนำเสนอโครงการประยุกต์ใช้บล็อกเชนกับการบริหารทรัพย์สินทางปัญญ� ตั้งแต่การจดทะเบียน การคุ้มครอ� และการส่งเสริมการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไท� และมีศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ ลีมัคเดช ผู้อำนวยกา� ป็Ȩี่ปรึกษาโครงการฯ
ศาสตราจารย� ดร.อาณัติ ลีมัคเดช กล่าวว่าบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมแบบกระจายศูนย์ สามารถจัดเก็บข้อมูลประเภทต่าง� บนเครือข่ายโดยมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่จัดเก็บจะมีความถูกต้อง ครบถ้ว� ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และยังสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้� เทคโนโลยีบล็อกเชนจึงเหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้ในงานทรัพย์สินทางปัญญ� ทั้งในด้านการจัดเก็บข้อมูลเชิงทะเบียนและธุรกรรมของงานทรัพย์สินทางปัญญาที่ต้องการหลักฐานการแสดงความเป็นเจ้าของสิทธิที่เชื่อมั่นได้ว่าเป็นของจริงถูกต้อ� ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงและสามารถตรวจสอบได� พิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ทำธุรกรรมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส� การสร้างสัญญาอัจฉริยะหรื� Smart Contract เพื่อสร้างข้อตกลงอัตโนมัติระหว่างคู่สัญญา และระบบการชำระเงิ� เพื่อรองรับการโอนหรือชำระเงินดิจิทัลผ่าน Smart Contract ในอนาค� ทั้งนี� การพัฒนาระบบต่าง� ยังต้องอาศัยเทคโนโลยีด้านอื่นเข้ามาสนับสนุนการทำงานของระบบบล็อกเชนด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับอินเทอร์เน็� (IoT : Internet of Things) รวมทั้งเทคโนโลยีจดจำ/ตรวจสอบรูปภา� (Image Recognition) เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไห� (Motion Sensor) ระบบระบุตำแหน่งบนพื้นโลก (GPS : Global Position System) เป็นต้น
สำหรับข้อเสนอความเป็นไปได้ในการพัฒนาต้นแบบการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการบริหารทรัพย์สินทางปัญญา สู่เชิงพาณิชย์นั้น จากการศึกษาพบว่ามีสิ่งที่ดำเนินการต่อได้อย่างน้อ� 8 โครงกา� ทั้งระยะสั้น (Quick Win 1 ปี) และระยะถัดไป (2-3 ปี) โดยในระยะสั้� เสนอให้นำร่องการนำข้อมูลทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ในระบบตลาดกลางทรัพย์สินทางปัญญ� (IP Mart) ขอ� เข้าสู่ฐานข้อมูลบล็อกเชน และการศึกษาและพัฒนามาตรฐานกลางการจดแจ้งลิขสิทธิ์ผลงานวรรณกรร� โดยสามารถร่วมมือกับผู้ให้บริกา� e-Book พัฒนามาตรฐานสำหรับเก็บข้อมูลลิขสิทธิ์บนบล็อกเชน ตัวอย่างโครงการในระยะถัดไป เช่� การประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา โครงการพัฒนาระบบการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร� (GI) และระบบตรวจสอบย้อนกลับออนไลน� นอกจากนี� มีข้อเสนอเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาบนเครือข่ายบล็อกเชน ทั้งสิทธิบัต� เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ รองรับการจดทะเบียน การโอนสิทธิ์ การอนุญาตให้ใช้สิทธิ� การนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ และการบังคับหลักประกันทางธุรกิจด้ว�
� จะหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไ� โดยหวังว่าข้อเสนอดังกล่าวจะได้รับความร่วมมือและนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาและธุรกิจไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ในอนาคต� นางสาวพิมพ์ชนกกล่า�