กระทรวงพาณิชย์จับมือสถานอกอัครราชทูตอังกฤษȨร่องใช้บล็อกชนอำȨยความสะดวกทางการค้าให้ภาคเอกชน
งานประชุมเพื่อนำเสน� (ร่าง) ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศของไทย

Thailand: Ministry of Commerce and British Embassy join forces to bring blockchain for trade facilitation
วันที่ 31 มกราคม 2562 ร่วมกับสถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเพื่อนำเสน� (ร่าง) ผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยม� ป็Ȩี่ปรึกษา�

Focus group: Can blockchain revolutionize international trade for Thailand?
ฯพณฯ นายไบรอั� เดวิดสั� เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไท� กล่าวว่าอังกฤษสนับสนุนการเปิดตลาดและการค้าเสร� รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับเศรษฐกิจการค้� ซึ่งบล็อกเชนเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สถานทูตอังกฤษให้การสนับสนุนในการยกระดับเศรษฐกิจการค้าของไท� โดยเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเศรษฐกิจการค้าได้อย่างกว้างขวาง รวมถึงการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศและการอำนวยความสะดวกทางการค้าด้ว� สถานทูตอังกฤษยินดีที่ได้สนับสนุนงบประมาณและทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับและในโครงการศึกษาครั้งนี้
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพ� ผู้อำนวยกา� กล่าวว่าบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะมาปฏิวัติสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในยุคดิจิทัล ด้วยคุณลักษณะสำคัญของบล็อกเชน โดยเฉพาะการกระจายฐานข้อมูล ทำให้เกิดความเชื่อมั่น โปร่งใ� และไว้วางใ� รวมทั้� การมีสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่ช่วยให้เกิดการดำเนินการอย่างอัตโนมัติเมื่อสอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จึงช่วยลดปัญหาการหลอกลวงและป้องกันปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันได้อย่างดียิ่� กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนข้างต้� จึงดำเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนประยุกต์ใช้กับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริการการเงิ� (Trade Finance) และการอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างประเทศ (Trade Facilitation) ของไทย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไท� และผู้ช่วยศาสตราจารย� ดร.สมนึ� คีรีโต ผู้อำนวยกา� ป็Ȩี่ปรึกษาโครงการฯ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมนึ� คีรีโต กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ประกอบการค้าขนาดกลางและขนาดเล็� (SMEs) มักจะมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิ� ทำให้ไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือได้รับอนุมัติในวงเงินต่ำ เนื่องจากเหตุผลด้านความเสี่ย� ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เชื่อมั่นในเอกสา� มีการปลอมแปลงเอกสารหรือมีโอกาสผิดพลาดสูง และเอกสารที่ใช้มีจำนวนมา� อาทิ ใบแจ้งหนี้ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้� หนังสือรับรองการส่งออก ใบตราส่งสินค้าทางเรื� และเอกสารประกอบอื่นๆ อีกทั้งการติดต่อสื่อสารของผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการค้าระหว่างประเทศนี้ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และใช้เวลาหลายวัน ดังนั้� บล็อกเชนจะเข้ามาแก้ปัญหาได้ ทั้งเรื่องการบริการการเงิ� (Trade Finance) และการอำนวยความสะดวกการค้าระหว่างประเทศ (Trade Facilitation)
จากการศึกษาพบว่ามีสิ่งที่ดำเนินการต่อได้อย่างน้อ� 6 โครงกา� ทั้งระยะสั้น (Quick Win 1 ปี) และระยะถัดไป (3-5 ปี) ซึ่ง จะหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไ� โดยโครงการนำร่อง Quick Win ได้หารือบื้องต้นร่วมกั� โดยเห็นว่า สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ภายในปีนี� ได้แก่ การเชื่อมโยงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้� และหนังสือรับรองการส่งออ� อิเล็กทรอนิกส� จา� และหน่วยงานอื่นๆ เช่� แล� เข้ากับระบบบล็อกเชนของธนาคา� เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเงินเพื่อการค้าแบบตราสารเครดิ� (Letter of Credits หรือ L/C) และแบบบัญชีเปิ� (Open Account)
สำหรับโครงการระย� 3-5 ปี มีข้อเสนอจากผลการศึกษา เช่� 1) โครงการการจัดทำระบ� Cross-border Blockchain หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าและหนังสือรับรองการส่งออก ขอ� 2) โครงการจัดทำระบบบล็อกเชน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส� ในการขนส่งและการนำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ 3) โครงการขยายระบบบล็อกเชน เพื่อรองรับ Next-Generation National Single Window ด้านการส่งออ� 4) โครงการขยายระบ� บล็อกเชนรองรับ Next-Generation National Single Window ด้านการนำเข้� 5) โครงการพัฒนาระบบบล็อกเชน เพื่อการติดตามย้อนกลับในห่วงโซ่สินค้า (Blockchain Traceability for Supply Chain)
นางสาวพิมพ์ชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า จะหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ถึงความเป็นไปได้ในการนำข้อเสนอการดำเนินการโครงการต่างๆ ไปปฏิบัติต่อไปในอนาค� โด� เห็นว่าการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช� จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้� และเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศต่อไ�