สถานอกอัครราชทูตอังกฤษจัึϸระชุมการปกป้องคุ้มครองึϹกให้โรงเรียนในประเทศไท�
สถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทยร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไท� แล� สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทยจัดประชุม “การปกป้องคุ้มครองเด็กในโรงเรียน (ประเทศไท�) ประจำปีพ.�. 2565�

สถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทยร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไท� แล� สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไท� จัดสัมมน� “การปกป้องคุ้มครองเด็กในโรงเรียน (ประเทศไท�) ประจำปีพ.�.2565� (Child Safeguarding in Schools (Thailand) 2022) โดยมุ่งเน้นความสำคัญของการปกป้องคุ้มครองเด็กในรั้วโรงเรียนและนำเสนอการปฏิบัติที่ถูกต้องให้โรงเรียนนำไปปรับใช้เพื่อป้องกันการล่วงละเมิดต่อเด็�
ศูนย์ช่วยเหลือสังค� ภายใต้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พบว่า เด็กไทยเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลด้วยสาเหตุความรุนแรงมากกว่า 10,000 คนในแต่ละป� โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติและยูนิเซฟพบว่าเด็กอายุระหว่าง 1-14 ปี ร้อยละ 58 เคยถูกลงโทษด้วยความรุนแรงทางร่างกาย
ในทุ� � ปี แผนกกงสุลของสถานอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่เด็กเฉลี่ยปีล� 60-70 คน และถึงแม้ว่ามาตรการการเดินทางจะเข้มงวดทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศน้อยลง แต่ก็ยังมีเคสการช่วยเหลือเด็กถึง 35 รายในปีที่ผ่านมา
สถิติข้อมูลในระดับโลกและระดับภูมิภาคยืนยันว่าความเป็นอยู่และการเรียนรู้ของเด็� � ส่งผลต่อกั� ความรุนแรงมีผลกระทบต่อสุขภาพกายและความเป็นอยู่ของเด็� � ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะมาจากการได้รับบาดเจ็� พฤติกรรมเสี่ย� การไร้ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจต่อผู้อื่น การทำร้ายตนเอง ปัญหาด้านสุขภา� และอื่� � การต้องเผชิญหน้ากับความรุนแรงยังทำให้การเข้าเรียนน้อยลงหรือถึงขั้นลาออกจากโรงเรียน ซึ่งส่งผลให้ระดับการเรียนรู้และอัตราการสำเร็จการศึกษาลดต่ำลงเช่นกัน
การประชุมดังกล่าวได้เชิญผู้เชี่ยวชาญและนักปฏิบัติเข้าร่วมแบ่งปันแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้โรงเรียนได้นำไปปรับใช้ในการปกป้องคุ้มครองเด็กอย่างเข้มแข็� และเปิดโอกาสให้มีการถกเรื่องบทบาทหน้าที่ของโรงเรียนและครูในการปกป้องเด็� ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนในประเทศไทยได้รวมเอาการคุ้มครองเด็กเป็นนโยบายความปลอดภัยภายในโรงเรียนและความเป็นอยู่ของเด็� การประชุมยังนำเสนอให้มีการฝึกอบรบครูเพื่อสังเกตสัญญาณของการละเมิดต่อเด็กและการช่วยเหลือเด็กเมื่อถูกละเมิ�
การประชุมดังกล่าวมีวิทยากรหลักจากยูนิเซฟ องค์การเอ็คแพท อินเตอร์เนชั่นแนล สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจัก� มูลนิธิสายเด็� และผู้เชี่ยวชาญด้านปกป้องคุ้มครองเด็� แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้ร่วมประชุมเกือบ 200 คน ต้องเข้าร่วมผ่านทางออนไลน� และปิดงานด้วยการประชุมโต๊ะกลมที่มีผู้เข้าร่วมจากกระทรวงศึกษาธิกา� ภาคประชาสังค� และตัวแทนเด็กและเยาวช� และพ่อแม�
มาร์� กูดดิ้� เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไท� กล่าวว่า
โรงเรียนสามารถมองเห็นพัฒนาการและการตอบโต้ของเด็� � และครูจะเป็นคนที่สามารถสังเกตเห็นพฤติกรร� บาดแผลหรือความเจ็บปวดของเด็� � และยังมีบทบาทที่สำคัญที่จะสังเกตเห็นสัญญาณของการถูกกระทำเหล่านี� ดังนั้นผมจึงมีความยินดีที่เราได้มาพบกันในวันนี้และร่วมแบ่งปันความรู้ความเข้าใจว่าเราจะทำอย่างไรให้การปกป้องคุ้มครองเด็กได้ก้าวไปข้างหน้า
สุภัทร จำปาทอ� ปลัดกระทรวงศึกษาธิกา� กล่าวว่า
กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญสูงสุดกับการปกป้องคุ้มครองเด็กในระบบการศึกษ� เราเล็งเห็นคุณค่าของการประชุมครั้งนี้ที่จะสามารถแบ่งปันการปฏิบัติที่ดีและชี้ให้เห็นความสำคัญของการปกป้องเด็กในโรงเรียนในประเทศไท� ทางกระทรวงขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ยูนิเซฟ แล� สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไท� และเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าการทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องคุ้มครองเด็� � ในโรงเรียนในประเทศไท�
คยองซั� คิ� ผู้อำนวยการยูนิเซฟ ประเทศไท� กล่าวว่า
มีหลักฐานที่ชัดเจนขึ้นว่าความเป็นอยู่และการเรียนรู้ของเด็� � นั้นเชื่อมโยงกั� ฉันเชื่อเหลือเกินว่าคำมั่นสัญญาของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อเรื่องความปลอดภัยในโรงเรียนซึ่งเป็นนโยบายหลักของทางกระทรวงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การปกป้องเด็กจากความรุนแรงในประเทศไทยนั้นดียิ่งขึ้� และส่งเสริมให้เด็กมีประสบการณ์ที่ดีในโรงเรียน การทำโรงเรียนให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กทุกคน ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือที่ไห� � เป็นภารกิจหลักของยูนิเซฟ ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ Safe to Learn Global ร่วมกับรัฐบาลอังกฤษและพันธมิตร
ข้อมูลพิ่มติ�
-
ในเดือนมีนาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษร่วมกับสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทยจัดงานสัมมนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “Child Safeguarding Webinar for International Schools in Thailand� เพื่อชี้ให้เห็นว่าสถานทูตและหน่วยงานต่าง � สามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความคุ้มครองให้แก่เด็� � ได�
-
กระทรวงการต่างประเทศและการพัոาสหราชอาณาจักรและยูนิเซฟได้ร่วมก่อตั้งโครงกา� ขึ้นเพื่อหยุดยั้งความรุนแรงในโรงเรียนและผ่านโรงเรียนเพื่อให้เด็� � สามารถเรียนรู� โลดแล่� และทำตามความฝันของพวกเขาได้อย่างมีอิสร� โครงกา� Safe to Learn เป็นโอกาสที่จะหยุดยั้งความรุนแรงในโรงเรียน พัฒนาผลการเรียนรู� ยกระดับการลงทุนด้านการศึกษ� และสร้างการรับรู้และเปลี่ยนแปลงทัศนคติเรื่องความรุนแรงต่อเด็�